วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การจัดการด้านอะไหล่เครื่องจักรกล (ตอนที่2)

การแบ่งประเภทของอะไหล่เครื่องจักรกล
    เพื่อให้การกำหนดอัตราการสิ้นเปลืองของอะไหล่แต่ละรายการในการหาเกณฑ์เบิกของช่วงระยะเวลาหนึ่งสามารถทำได้สะดวก   และมีความถูกต้องนั้นควรแบ่งประเภทของอะไหล่เครื่องจักรกลตามลักษณะการใช้คือ


 1.อะไหล่ที่ใช้ในการบำรุงรักษาตามกำหนดระยะเวลาการใช้งาน ที่แนะนำโดยบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรกล อะไหล่ประเภทนี้ได้แก่  เครื่องกรองต่างๆ และรวมถึงวัสดุสิ้นเปลืองประเภทน้ำมันหล่อลื่นชนิดต่างๆ ด้วย ซึ่งอัตราการสิ้นเปลืองอะไหล่ที่ใช้ในการบำรุงรักษานี้กำหนดได้จากจำนวนชั่วโมงหรือจำนวนวันของการใช้งานของเครื่องจักรกลในแต่ละช่วงระยะเวลา และข้อแนะนำในการบำรุงรักษาเครื่องจักรกล  ตัวอย่างเช่น  เครื่องจักรกลมีแผนการใช้งาน 2000 ชั่วโมงต่อปี  และบริษัทผู้ผลิตแนะนำให้เปลี่ยนเครื่องกรองน้ำมันหล่อลื่นทุก  500 ชั่วโมง  อัตราการสิ้นเปลืองเครื่องกรองน้ำมันหล่อลื่นก็จะเป็น  4  อันต่อปี  เป็นต้น 

แต่อย่างไรก็ตามระยะเวลาที่แนะนำให้เปลี่ยนอะไหล่ของบริษัทผู้ผลิตนั้นเป็นระยะเวลาที่กำหนดจากสภาพการใช้งานของเครื่องจักรกลทั่วไปโดยเฉลี่ย  ดังนั้นหากเครื่องจักรกลจะต้องใช้งานในสภาพที่ไม่ดี เช่น ใช้งานในบริเวณที่มีฝุ่นผงมาก  หรือใช้งานหนักตลอดเวลา  อาจต้องลดช่วงระยะเวลาที่แนะนำลง  ตามตัวอย่างข้างต้นซึ่งแทนที่จะเปลี่ยนเครื่องกรองทุก 500 ชั่วโมงทำงานก็อาจเปลี่ยนทุก 300 ชั่วโมง เป็นต้น 


    นอกจากนี้เพื่อให้ง่ายต่อการกำหนดความต้องการของอะไหล่ และวัสดุที่ใช้ในการบำรุงรักษา  ควรจัดทำรายละเอียดของอะไหล่และวัสดุดังกล่าวของเครื่องจักรกลแต่ละชนิดผู้ผลิตและรุ่นไว้โดยควรมีรายละเอียดตามตารางตัวอย่างที่ 1 ซึ่งเมื่อรู้จำนวนชั่วโมงที่เครื่องจักรกลนั้น ๆ จะต้องทำงานในอนาคตก็สามารถกำหนดความต้องการอะไหล่แต่ละรายการได้สะดวก ไม่จำเป็นต้องไปดูจากหนังสือคู่มืออีก


 2.อะไหล่ประเภทสึกหรอเร็ว คือ อะไหล่หรือชิ้นส่วนของเครื่องจักรกลประเภทที่มีการขัดถูหรือสัมผัสกับวัสดุที่มีสมบัติเป็นตัวขัดถูอยู่ตลอดเวลาในขณะทำงาน และชิ้นส่วนเครื่องจักรกลที่มีการสัมผัสกันเองโดยไม่มีการหล่อลื่น ได้แก่ ใบมีด ใบกวน และลูกกลิ้งต่างๆ เป็นต้น


    สำหรับการกำหนดอัตราการสิ้นเปลืองของอะไหล่ประเภทนี้ ทำได้โดยการกำหนดอายุการใช้งานของอะไหล่แต่ละรายการ ซึ่งอายุการใช้งานก็จะขึ้นอยู่กับสภาพของวัตถุดิบที่เครื่องจักรกลต้องทำงานด้วย และลักษณะของการใช้งานของเครื่องจักรกล เช่น ใช้งานเบา ปานกลาง หรือใช้งานหนัก โดยอาจประมาณจากข้อมูลการใช้อะไหล่แต่ละชิ้นเท่าที่ผ่านมา  แต่หากไม่มีข้อมูลดังกล่าวอาจประมาณจากข้อแนะนำของบริษัทผู้ผลิตและเก็บข้อมูลจริงมาปรับแก้ภายหลังก็ได้ และเพื่อให้สะดวกในการกำหนดความต้องการก็ควรจัดทำรายละเอียดของอะไหล่ประเภทสึกหรอเร็วของเครื่องจักรกลแต่ละชนิด  ผู้ผลิต  และรุ่น  ไว้ตามตารางตัวอย่างที่  2
 3.อะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมแซมเครื่องจักรกล คือ อะไหล่ที่ใช้ในการเปลี่ยนเมื่อเครื่องจักรกลเกิดการขัดข้องแบบสูญสิ้นหน้าที่การทำงานหรือแบบฉุกเฉิน และเกิดข้อขัดข้องที่เกิดจากการเสื่อมสภาพ  สำหรับอัตราการสิ้นเปลืองของอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมแซม  เมื่อเครื่องจักรกลเกิดข้อขัดข้องแบบฉุกเฉินนั้นประเมินได้ยาก  เนื่องจากข้อขัดข้องแบบนี้ไม่สามารถทราบล่วงหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ควรประเมินอัตราการสิ้นเปลืองอะไหล่ประเภทนี้จากข้อมูลการใช้อะไหล่แต่ละชิ้นที่ผ่านมา โดยพิจารณาลักษณะการใช้งานและอายุของเครื่องจักรนั้น ๆ ประกอบ ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองของอะไหล่ทีใช้ในการซ่อมแซมเมื่อเครื่องจักรกลเกิดขัดข้องแบบเสื่อมสภาพหรืออะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมใหญ่ระบบต่างๆของเครื่องจักรกล สามารถประเมินได้จากการกำหนดอายุการใช้งานเฉลี่ยของระบบนั้นๆ ซึ่งอายุการใช้งานเฉลี่ยของระบบแต่ละระบบจะขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน สภาพการบำรุงรักษา และความชำนาญของพนักงานควบคุมเครื่องจักรเป็นสำคัญแล้วกำหนดรายการอะไหล่ที่จำเป็นต้องใช้ในการซ่อมใหญ่โดยพิจารณาจากชิ้นส่วนที่ควรจะเสื่อมสภาพ เพื่อให้สะดวกในการกำหนดความต้องการก็ควรจัดทำรายละเอียดของอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมแซมเครื่องจักรกลแต่ละชนิด  ผู้ผลิต  และรุ่นไว้ตามตารางตัวอย่างที่  3
เครื่องจักรกล…………………………………………..ผู้ผลิต…………………รุ่น………

  ตารางตัวอย่างที่ 1 รายละเอียดอะไหล่และวัสดุที่ใช้ในการบำรุงรักษา

หมายเหตุ
- ช่วงระยะเวลาการบำรุงรักษา หมายถึง จำนวนชั่วโมงที่ใช้งานหรือระยะเวลาซึ่งเมื่อครบก็ให้ดำเนินการบำรุงรักษาตามรายละเอียดที่กำหนด โดยอาจปรับแก้ตามสภาพการใช้งานก็ได้  และตามรายละเอียดการบำรุงรักษาก็จะระบุรายการรายละเอียดและจำนวนของอะไหล่และวัสดุที่จำเป็นต้องใช้ด้วย รายละเอียดทั้งหมดสามารถดูได้จากคู่มือการบำรุงรักษาเครื่องจักรกลที่บริษัทผู้ผลิตให้มากับเครื่องจักรกล  ยกเว้นหมายเลขอะไหล่ซึ่งอาจจะต้องเปิดหาจากคู่มืออะไหล่
- ราคาต่อหน่วย  ควรใช้ราคาที่ซื้อในท้องถิ่นและให้มีการปรับแก้ตามราคาที่เปลี่ยนแปลงไป
- แบบฟอร์มนี้ให้ใช้สำหรับเครื่องจักรกลแต่ละชนิด  ผู้ผลิต  และรุ่น  เพราะเครื่องจักรกลแต่ละชนิด  และรุ่นโดยทั่วไปจะมีรายละเอียดการบำรุงรักษาแตกต่างกัน
    
     ตารางตัวอย่างที่ 2 รายละเอียดอะไหล่ประเภทสึกหรอเร็ว

หมายเหตุ- รายการอะไหล่ประเภทสึกหรอเร็ว  กำหนดจากข้อแนะนำจากผู้ผลิตหรือพิจารณากำหนดจากลักษณะการทำงานของชิ้นส่วน
- อายุการใช้งานโดยประมาณ  กำหนดจากข้อแนะนำจากผู้ผลิต  หรือพิจารณาจากสภาพพื้นที่ที่เครื่องจักรกลทำงาน และลักษณะการใช้งานของเครื่องจักรกล  ถ้าเครื่องจักรกลทำงานในหลายสภาวะให้ใช้ค่าเฉลี่ย
- ราคาต่อหน่วยควรใช้ราคาที่ซื้อในท้องถิ่นและให้มีการปรับแก้ตามราคาที่เปลี่ยนแปลงไป
ชนิดของเครื่องจักรกล………………………………………..ผู้ผลิต…………………รุ่น…………
 
   ตารางตัวอย่างที่ 3 รายละเอียดอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมใหญ่
หมายเหตุ- รายละเอียดอะไหล่  ให้พิจารณาจากคู่มืออะไหล่ของเครื่องจักรกลแต่ละชนิด  ผู้ผลิตแต่ละรุ่น
- ราคาต่อหน่วย  ควรใช้ราคาที่ซื้อในท้องถิ่น และให้มีการปรับแก้ตามราคาที่เปลี่ยนแปลงไป
            นอกจากการแบ่งประเภทอะไหล่ตามลักษณะการใช้เพื่อประเมินความต้องการของการนำไปใช้ในแต่ละช่วงระยะเวลาตามรายละเอียดข้างต้นแล้ว ยังควรแบ่งอะไหล่ที่ต้องการใช้ทั้งหมดออกเป็น อะไหล่ที่ใช้ร่วมกัน (Common Parts หรือ Standard parts ) เป็นอะไหล่ที่สามารถใช้ได้กับเครื่องจักรกลหลายเครื่อง ตัวอย่างเช่น ตลับลูกปืน สายพาน สวิตช์ และซีล เป็นต้น และอะไหล่ที่ใช้เฉพาะ ( Unit Specific Parts ) เป็นอะไหล่ที่ใช้ได้กับเครื่องจักรกลเฉพาะเครื่องใดเครื่องหนึ่งเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อลดรายการและจำนวนอะไหล่ที่ต้องเก็บไว้ในคลังพัสดุลง ซึ่งก็จะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการจัดการด้านอะไหล่ลงในที่สุด


รศ. วีระศักดิ์ กรัยวิเชียร
ศูนย์ฝึกอบรม CMMS



โปรแกรมบริหารงานซ่อมบำรุง ที่ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น