วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การหาและใช้หน้าต่างของการบำรุงรักษาให้ได้ประโยชน์สูงสุด

               การทำการบำรุงรักษาแก้ไขและการบำรุงรักษาป้องกันบางอย่างจำเป็นต้องทำเมื่อเครื่องจักรและอุปกรณ์หยุดทำงาน และถ้าเวลาที่เครื่องจักรและอุปกรณ์ต้องหยุดทำงานนั้นเป็นเวลาเดียวกับเวลาที่เครื่องจักรและอุปกรณ์ควรจะต้องทำงานตามแผนการผลิตที่กำหนดไว้ล่วงหน้า การหยุดเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อทำการบำรุงรักษาดังกล่าวก็จะไปกระทบกระเทือนต่อการผลิต สมรรถนะความพร้อมใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ก็จะลดลง รวมทั้งมีการสูญเสียการผลิตหรือค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาทางอ้อมเกิดขึ้นด้วย แต่ถ้าเวลาที่เครื่องจักรและอุปกรณ์ต้องหยุดทำงานเพื่อทำการบำรุงรักษาไม่ไปตรงกับเวลาที่เครื่องจักรและอุปกรณ์ต้องทำงานตามแผนการผลิตการหยุดเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อทำการบำรุงรักษาก็จะไม่ไปกระทบกระเทือนต่อการผลิต สมรรถนะความพร้อมใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง และการสูญเสียการผลิตก็จะไม่เกิดขึ้น

              แม้ว่าโรงงานอุตสาหกรรมโดยทั่วไปจะพยายามใช้ประโยชน์จากเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีอยู่อย่างเต็มที่โดยมักจัดให้มีการทำงานตลอดเวลาก็ตาม แต่ตลาดมีส่วนสำคัญในการกำหนดผลผลิตของโรงงาน ซึ่งโรงงานต้องวางแผนการผลิตให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดและสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ต่างๆให้แก่ลูกค้าได้ทันตามกำหนดของการส่งมอบ ซึ่งในการวางแผนการผลิตนั้นมักพบว่าระหว่างเวลาที่ทำการผลิตจะมีช่วงเวลาที่ต้องหยุดเครื่องจักรและอุปกรณ์ด้วยเหตุผลในด้านการผลิตเสมอที่เรียกว่า หน้าต่างหรือช่องว่างของการบำรุงรักษา (Maintenance windows) ได้แก่ เวลาการเปลี่ยนเครื่องมือ เวลาการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ เวลาการเปลี่ยนกะของการทำงาน และเวลาทำความสะอาดเครื่องจักรและอุปกรณ์

             การหาหน้าต่างหรือช่องว่างของการบำรุงรักษาจำเป็นจะต้องศึกษาจากแผนการผลิตและกระบวนการผลิตอย่างละเอียด และกำหนดช่วงเวลาที่แน่นอนแต่ละช่วงในแผนการผลิตของช่วงเวลาหนึ่งๆที่จะสามารถใช้เป็นหน้าต่างหรือช่องว่างของการบำรุงรักษาได้ เพื่อนำไปวางแผนในการบำรุงรักษาต่อไป รูปที่ 4.13 แสดงถึงการที่ไม่ได้ใช้หน้าต่างหรือช่องว่างของการบำรุงรักษาให้เป็นประโยชน์ โดยไม่มีความร่วมมือกันของหน่วยงานบำรุงรักษาและหน่วยงานผลิต ผลก็คือมีการหยุดเครื่องจักรและอุปกรณ์จำนวนมากครั้งที่เกิดขึ้นทั้งด้วยความจำเป็นในด้านการผลิตและความจำเป็นในด้านการบำรุงรักษา การหยุดเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อทำการบำรุงรักษาก็จะกระทบกระเทือนต่อการผลิต เป็นผลให้สมรรถนะความพร้อมใช้งานลดลงและมีการสูญเสียการผลิตเกิดขึ้น แต่ถ้ามีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานบำรุงรักษาและหน่วยงานผลิต มีการหาและนำเอาหน้าต่างของการบำรุงรักษาไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ นั่นก็คือมีการจัดทำแผนการบำรุงรักษาให้สอดคล้องกับแผนการผลิต ผลที่ได้รับที่ดีที่สุดก็คือการหยุดของเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อทำการบำรุงรักษาไม่มีผลกระทบต่อการผลิตเลย สมรรถนะความพร้อมใช้งานเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ และไม่มีการสูญเสียการผลิตเกิดขึ้น แต่ในทางปฏิบัติแล้วแผนการบำรุงรักษามักจะไม่สอดคล้องพอดีกับแผนการผลิตเหมือนกับที่ได้แสดงในรูปที่ 4.14 ซึ่งถ้าหน้าต่างหรือช่องว่างของการบำรุงรักษาอาจมีมากเกินพอ การหยุดเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อทำการบำรุงรักษาก็จะไม่กระทบกระเทือนต่อการผลิต แต่ถ้าหน้าต่างหรือช่องว่างของการบำรุงรักษามีไม่เพียงพอ การหยุดเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อทำการบำรุงรักษาก็จะกระทบกระเทือนต่อการผลิต โดยเวลาที่ใช้เกินไปจากหน้าต่างของการบำรุงรักษาที่มีอยู่ก็คือเวลาที่ทำให้เกิดการสูญเสียการผลิตและเวลาที่ทำให้สมรรถนะความพร้อมใช้งานลดลง นอกจากนี้การวางแผนการบำรุงรักษาให้สอดคล้องกับแผนการผลิตไว้ล่วงหน้านั้นจะทำได้เฉพาะการบำรุงรักษาป้องกันทางตรงหรือการบำรุงรักษาตามกำหนดเวลาแน่นอนเท่านั้น ส่วนการวางแผนการบำรุงรักษาแก้ไขโดยอาศัยการตรวจสภาพจะทำได้ก็ต่อเมื่อได้ตรวจพบข้อขัดข้องที่จะนำไปสู่การชำรุดเสียหายแต่เครื่องจักรและอุปกรณ์ยังสามารถใช้งานต่อไปได้อีกระยะหนึ่งเท่านั้นหน่วยงานบำรุงรักษาจึงจำเป็นต้องหาหน้าต่างของการบำรุงรักษาไว้ล่วงหน้าและมีการประสานงานกับหน่วยงานผลิตอย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาใช้ในการบำรุงรักษาแก้ไขชนิดที่มีแผนดังกล่าว

               แสดงผลของการใช้กลยุทธ์ของการบำรุงรักษา 2 ประการคือการเปลี่ยนจาการบำรุงรักษาแก้ไขที่ไม่มีแผนหรือการใช้จนเครื่องจักรและอุปกรณ์เกิดการชำรุดเสียหายไปเป็นการบำรุงรักษาแก้ไขที่มีแผนหรือการบำรุงรักษาตามสภาพโดยอาศัยการบำรุงรักษาป้องกันทางอ้อมหรือการตรวจสอบสภาพ ซึ่งผลของการใช้กลยุทธ์ของการบำรุงรักษาประการแรกนี้จะทำให้เวลาที่ต้องหยุดเครื่องจักรและอุปกรณ์ ( down time ) เพื่อทำการบำรุงรักษาแก้ไขลดลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลารอคอยทรัพยากรต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน ( waiting time ) จะลดลงพอสมควรเนื่องจากมีการตรวจพบว่ากำลังจะมีการชำรุดเสียหายเกิดขึ้นและได้มีการวางแผนและเตรียมทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้ในการบำรุงรักษาแก้ไขไว้ล่วงหน้า เป็นผลให้สมรรถนะความพร้อมใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์นั้นๆเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาโดยรวมจะลดลง กลยุทธ์ประการที่สองก็คือการหาและใช้หน้าต่างหรือช่องว่างของการบำรุงรักษาให้เป็นประโยชน์ ซึ่งผลที่ได้รับก็คือ ถ้าสามารถหาหน้าต่างหรือช่องว่างของการบำรุงรักษาที่สามารถจะจัดให้มีการบำรุงรักษาแก้ไขตามที่วางแผนไว้ได้พอดี ( มีจังหวะและช่วงเวลาที่พอดี ) ก็จะทำให้เวลาที่ต้องหยุดเครื่องจักรและอุปกรณ์และมีผลต่อการผลิตกลายเป็นศูนย์ ( ยังมีการหยุดเครื่องจักรและอุปกรณ์แต่เป็นการหยุดเครื่องจักรและอุปกรณ์เนื่องจากการผลิต และใช้เวลาที่หยุดเครื่องจักรและอุปกรณ์นั้นในการบำรุงรักษาแก้ไขที่ได้วางแผนไว้ ) เป็นผลให้สมรรถนะความพร้อมใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์นั้นๆเท่ากับ 100 เปอร์เซ็นต์ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาโดยรวมจะลดลง ( ไม่มีการสูญเสียการผลิตหรือค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาทางอ้อม )




โปรแกรมบริหารงานซ่อมบำรุง ที่ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น